งานก่อสร้างชั้นใต้ดินอาคารระบบ “บนลงล่าง” ด้วยเสาเหล็กพร้อมใช้
Top-Down Construction with RTU Steel Stanchion
ในปัจจุบัน ความรวดเร็วและความปลอดภัยในการก่อสร้างเป็นปัจจัยสำคัญที่เจ้าของโครงการต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากส่งผลต่อความมั่นใจของทั้งทีมควบคุมงานและผู้ใช้อาคารในอนาคต ด้วยเหตุนี้ ระบบการก่อสร้างสมัยใหม่จึงเริ่มหันมาใช้วิธีการที่เน้นการผลิตและแปรรูปนอกพื้นที่หน้างาน (off-site construction) เพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่มีคุณภาพและความแม่นยำสูง พร้อมสำหรับการประกอบติดตั้งได้อย่างรวดเร็วที่หน้างาน
ระบบก่อสร้างชั้นใต้ดิน: จากอดีตสู่ปัจจุบัน
สำหรับการก่อสร้างพื้นที่ชั้นใต้ดิน โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีลักษณะดินอ่อน ระบบที่ใช้กันโดยทั่วไปในอดีตคือ bottom-up constructionโดยใช้กำแพงกันดิน (diaphragm wall) ร่วมกับเข็มเจาะ (bored pile) และติดตั้งระบบค้ำยันชั่วคราว (temporary bracing) เพื่อป้องกันการพังทลายของกำแพงกันดินในระหว่างการขุดดินและก่อสร้าง ซึ่งเริ่มจากพื้นชั้นใต้ดินล่างสุดแล้วค่อยๆ สร้างขึ้นมาจนถึงระดับพื้นดิน
ระบบ Top-Down Construction ด้วยเสาเหล็กพร้อมใช้
เพื่อตอบโจทย์ความรวดเร็วในการก่อสร้าง และลดปริมาณงานค้ำยันชั่วคราวที่มีต้นทุนสูง จึงได้มีการพัฒนาระบบtop-down constructionโดยใช้เสาเหล็กเชื่อมประกอบ (steel stanchion) ซึ่งสามารถผลิตเป็นหน้าตัดขนาดใหญ่ ทั้งแบบ H-shape และ Box-shape มีความยาวตั้งแต่ระดับต่ำกว่าชั้นใต้ดินล่างสุด (ฝังในเสาเข็มเจาะ) ไปจนถึงระดับเหนือพื้นดิน
กระบวนการเริ่มจากการติดตั้งเสาเหล็ก แล้วทำพื้นชั้น ground ก่อน จากนั้นจึงดำเนินการก่อสร้างชั้นใต้ดินถัดลงไป ซึ่งพื้นแต่ละชั้นที่ก่อสร้างเสร็จแล้วจะทำหน้าที่เป็นระบบค้ำยันถาวรให้กับกำแพงกันดิน ช่วยลดความจำเป็นในการใช้ bracing ชั่วคราวได้อย่างมาก
การต่อพื้นกับเสาเหล็ก
พื้นสามารถเชื่อมต่อกับเสาเหล็กเชื่อมประกอบได้ทั้งโดยระบบคานเหล็ก หรือระบบคอนกรีตเสริมเหล็กที่หล่อครอบเสาเหล็กรูปพรรณ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเรียกระบบนี้ว่าSRC (Steel Reinforced Concrete)
ข้อดีของระบบ Top-Down ด้วยเสาเหล็กเชื่อมประกอบ
- ลดจุดต่อของเสาเหล็ก – สามารถผลิตเสาขนาดยาวถึง 30 เมตร โดยอาจแบ่งเป็นท่อนละ 10 เมตร เพื่อง่ายต่อการขนส่งและติดตั้งหน้างาน
- ก่อสร้างได้รวดเร็ว – ลดจำนวนขั้นตอนที่ต้องดำเนินการที่หน้างาน
- ประหยัดค่าใช้จ่าย – ลดการใช้ระบบค้ำยันชั่วคราวซึ่งมีต้นทุนสูง
- ใช้ร่วมกับพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กได้ – เพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบ
- ไม่ต้องมีระบบป้องกันไฟเพิ่มเติม – เนื่องจากโครงสร้างเหล็กถูกหุ้มด้วยคอนกรีต
- ดำเนินการได้พร้อมกับงานโครงสร้างเหนือพื้นดิน (superstructure)
- เพิ่มพื้นที่ใช้สอยใต้ดิน – เนื่องจากเสาเหล็กรูปพรรณมีขนาดหน้าตัดเล็กกว่าคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้ได้พื้นที่ภายในมากขึ้น
การใช้งานจริงในประเทศไทย
ระบบก่อสร้างแบบ Top-Down ด้วยเสาเหล็กเชื่อมประกอบ ได้ถูกนำมาใช้งานในโครงการเชิงพาณิชย์และอาคารแบบผสมผสาน (mixed-use) หลายแห่งในประเทศไทย เช่น
- โครงการเวิ้งนครเกษม โดยบริษัท Asset World Corporation (AWC)
- โครงการ Central Embassy แห่งใหม่ที่อยู่ในแผนการก่อสร้างเร็วๆ นี้
ท่านที่สนใจ สามารถติดต่อขอข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติมได้ทาง We Love Steel Construction Line official: @060tlizi หรือติดต่อขอข้อมูลด้าน specification ของผลิตภัณฑ์ และราคาสินค้าได้ทาง SPM Line official: @906rbkly
